เมื่อ : 18 ต.ค. 2568

วันที่ 16 ตุลาคมพ.ศ. 2568 เมื่อเวลา 14.00 น. ตามนโยบายของรัฐบาลปราบปรามสินค้าที่ไม่มีอย.นำเข้าผิดกฎหมายกฎหมายนายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขนางสาวจิตศ์ตราฏ์ หมีทองธนกรณ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยานายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นายวิน ธนพชรโภคิน ประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.ต.ต คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาตำรวจ ปคบ.ร่วมกันแถลงผลการทำลายแหล่งจัดเก็บและกระจายเครื่องมือแพทย์(คอนแทคเลนส์) เถื่อนในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการตรวจยึดของกลางจำนวน 385070 ชิ้นมูลค่ามากกว่า 17873500 บาท โดยมี เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดนำโดย  พ.ต.ท.หญิง อนุสรา บัวแดง สว.กก.4 บก.ปคบ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

 

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข  เปิดเผยว่า พฤการเข้าจับกุมและยึดของกลางจำนวนมากในครั้งนี้ สืบเนื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคได้รับเรื่องร้องเรียนและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาให้ตรวจสอบเครื่องมือแพทย์ (คอนแทคเลนส์)ยี่ห้อ “Kilala”

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจนทราบสถานที่จัดเก็บและกระจายสินค้าซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวหากผลิตโดยไม่ได้มาตรฐานการผลิตและไม่ทราบถึงแหล่งที่มาแล้วมีการนำไปใช้กับดวงตาอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการใช้งานและเกิดความเสี่ยงติดเชื้อจากการใช้งานได้ต่อมาวันที่ 16 ตุลาคมพ.ศ. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยานำหมายศาลจังหวัดสมุทรปราการเข้าตรวจค้นสถานที่จัดเก็บและกระจายสินค้าภายในโกดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลบางเสาธง  อำเภอบางเสาธง    จังหวัดสมุทรปราการตรวจยึดและอายัดของกลางจำนวน 385070 ชิ้นส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินคดีรายละเอียดดังนี้


1. ผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ที่ได้รับอนุญาตประเภทคอนแทคเลนส์จำนวน 322500 ชิ้นมูลค่า 16825000 ล้านบาท
2. ผลิตภัณฑ์ยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาได้แก่ยาประเภทเจลทาลดไข้ยาฆ่าเชื้อสำหรับทาบริเวณผิวหนังจำนวน 1500 ชิ้นมูลค่าประมาณ 120000 บาท
3. ผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่มี อย. และไม่มีแสดงฉลากภาษาไทยได้แก่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไบโอตินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแมกนีเซียมอาหารในภาชนะบรรจุปิดสนิทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจำนวน 10000 ชิ้นมูลค่า 800000 บาท
4. ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ไม่มีเลขจดแจ้งและไม่แสดงฉลากภาษาไทยได้แก่ยาย้อมผมครีมทาหน้า สบู่ จำนวน 500 ชิ้นราคาประมาณ 50000 บาท
5. ผลิตภัณฑ์วัตถุอันตรายที่ไม่ได้รับอนุญาตได้แก่ ผลิตภัณฑ์ล้างห้องน้ำ จำนวน 1000 ชิ้น มูลค่าประมาณ 50000 บาท
6. ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ที่ไม่มีเลขทะเบียนตำรับ ได้แก่ ยาทารักษาโรคสะเก็ดเงิน และยาพ่นสำหรับรักษาอาการคัดจมูก จำนวน 570 ชิ้น มูลค่าประมาณ 28500 บาท
   
จากการตรวจสอบพบว่าไม่ได้รับแจ้งรายละเอียดนำเข้าเครื่องมือแพทย์จากสำนักคณะกรรมการอาหารและยาแต่อย่างใด จากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่าโกดังเก็บสินค้าดังกล่าวมีการบริหารจัด การในลักษณะเก็บแพ็คส่งหรือ fulfillment โดยสินค้าจะมี Ms.MENG(สงวนนามสกุล) นายทุนชาวจีนเป็นผู้สั่งและนำเข้ามาจากประเทศจีนจากนั้นนำมาเก็บไบร์ทโกดังที่Mr.YONGKUI(สงวนนามสกุล) เป็นผู้จัดการบริษัทเพื่อรอแพ็คส่งให้ลูกค้าชาวไทยจากการสอบสวนนางสาวจารุณีพนักงานรับว่าตนจะรับออเดอร์ที่อยู่การจัดส่งจากนั้นทำการแพ็คบรรจุและส่งให้กับลูกค้าชาวไทยตามคำสั่ง Mr.YONGKUI(สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นนายจ้างชาวจีนโดยทำมาแล้วประมาณหนึ่งปี

ด้าน ภญ. สุภัทรา  บุญเสริม เลขาธิการตณะกรรมการอาหารและยา ระบุว่า เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฏหมายดังนี้ พรบเครื่องมือแพทย์พ.ศ. 2551  ฐานขายเครื่องมือแพทย์ที่ได้รับอนุญาตระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกิน 200000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับพรบ.ยาพ.ศ. 2510 ฐานขายยาขึ้นทะเบียนตำรับยาและขายโดยไม่ได้รับอนุญาตระวาง โทษจำคุกไม่เกินห้าปีและปรับไม่เกิน 10000 บาท
พ.ร.บ. อาหารพ.ศ. 2522 ฐานจำหน่ายอาหารที่ไม่ขอออยอไม่แสดงฉลากภาษาไทยและแสดงฉลากอาหารไม่ถูกต้องต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 30000 บาท 
พรบ เครื่องสำอางพ.ศ. 2558 ฐานขายเครื่องสำอางที่ไม่ได้จดแจ้งและไม่มีฉลากภาษาไทยระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกิน 20000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
พรบ วัตถุอันตรายพ.ศ. 2551 ฐานขายวัตถุอันตรายที่ไม่มีฉลากระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกิน 100000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ พรบ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรพ.ศ. 2562 ฐานขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตามหลักระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกิน 300000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

 
ขณะที่  พล.ต.ต คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ปคบ. กล่าวว่าประชาชนทั่วไปควรใช้ความระมัดระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ควรเลือกซื้อจากร้านขายยาหรือร้านขายอุปกรณ์ทางการแพทย์หรือร้านค้าที่เชื่อถือได้ก่อนซื้อขอให้ตรวจสอบการได้รับอนุญาตกับเว็บไซต์อย.ก่อน โดยเฉพาะคอนแทคเลนส์ซึ่งนำมาใช้กับดวงตาโดยตรงอาจเกิดอาการแพ้ติดเชื้อส่งผลกระทบต่อดวงตาได้และขอเตือนผู้ที่ลักลอบขายผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันทีหากตรวจพบจะดำเนินคดีถึงที่สุดเพราะท่านกำลังทำให้ประชาชนได้รับความเสี่ยงจากการใช้เครื่องมือแพทย์ที่ไม่ได้มาตรฐาน จนอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อเจ็บป่วยและต้องเยียวยารักษาโรคทั้งนี้หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิดสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน ปคบ.1135 หรือเพจ ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภค